ผิวสวยกินอะไรดี ผิวสวยด้วยสูตรธรรมชาติ คาถาผิวสวย
ในยุคของการแข่งขัน ที่เรากำลังประสบอยู่ในปัจจุบัน ชีวิตมีความรีบเร่งมากขึ้น จนไม่ค่อยมีเวลาที่จะให้ความสำคัญกับเรื่อง ความสมดุลของอาหารที่รับประทานรวมทั้งค่านิยมการรับประทานอาหารแบบตะวันตก ซึ่งประกอบด้วย เนื้อสัตว์ ไขมัน นม เนย เป็นส่วนใหญ่ ทำให้คนไทยมีโรค ซึ่งเกิดจากการกินดีเกินไป เช่น เบาหวาน ความดันโลหิตสูง โรคหัวใจ โรคอัมพาต ซึ่งโรคเหล่านี้ล้วนเกี่ยวกับความเสื่อมของหลอดเลือด
ในปัจจุบันชาวตะวันตกเริ่มตระหนักถึงพิษภัยของการกินอาหาร ซึ่งไม่สมดุลได้มีการชักชวนให้ลดการรับประทาน เนื้อสัตว์ นม เนย ให้เพิ่มการรับประทาน พืช ผัก และธัญพืช ซึ่งอุดมด้วยเส้นใยจากธรรมชาติ และวิตามิน
ในวัยเด็ก เนื้อสัตว์และนม ยังเป็นสิ่งจำเป็น เนื่องจากร่างกายมีการเจริญเติบโตในวัยผู้ใหญ่ร่างกายต้องการโปรตีนลดลง การรับประทานเนื้อสัตว์ และนมมากเกินไปยังทำให้ร่างกายได้รับไขมันเพิ่ม เนื่องจากในเนื้อสัตว์และนมจะมีปริมาณไขมันค่อนข้างสูง นอกจากนั้นยังพบว่า ผู้ที่รับประทานเนื้อสัตว์มาก ๆ มีโอกาสเกิดมะเร็งลำไส้ใหญ่ได้สงูควรเปลี่ยนแปลงมารับประทานโปรตีนจากพืชพวกถั่วแทน
อาหารอีกกลุ่มซึ่งไม่ควรรับประทานมากเกินไป คือ น้ำตาล พบว่าน้ำตาลทำให้หลอดเลือดมีความเสื่อมเร็วขึ้น ในผู้ป่วยเบาหวานที่มีน้ำตาลสูงจะพบว่าหลอดเลือดแก่ก่อนวัย ไขมันก็เป็นอีกกลุ่มหนึ่งที่ควรจำกัด และใช้น้ำมันจากพืชแทน น้ำมันจากสัตว์ ยกเว้นน้ำมันมะพร้าวและน้ำมันปาล์มควรหลีกเลี่ยง เนื่องจากมีโคเรสเตอรอลสูง
อาหารที่ควรรับประทานคือ ผัก ผลไม้ ธัญพืช เช่น ข้าวซ้อมมือ ถั่ว เพราะอุดมไปด้วย กากใยธรรมชาติ วิตามิน และเกลือแร่
กะหล่ำปลีมีประโยชน์มากมาย มีกรดทาร์ทาริก (Tartaric acid) ที่ช่วยขัดขวางไม่ให้น้ำตาลและแป้งกลายเป็นไขมัน จึงมีส่วนช่วยในการลดน้ำหนักและโคเลสเตอรอลได้ ทั้งยังอุดมไปด้วยแคลเซียมและฟอสฟอรัสที่ช่วยบำรุงกระดูกและฟันแข็งแรงขึ้น มีสารเอสเมธิลเมโธโอนินที่ช่วยรักษาโรคกระเพาะอาหาร การทานกะหล่ำปลีสดจะไม่สูญเสียวิตามินไปกับความร้อน แต่ไม่แนะนำให้ทานกะหล่ำปลีดิบมากเกินไปเพราะอาจทำให้ท้องอืด เพราะสารกอยโตรเจนในกะหล่ำปลีนั้นจะขัดขวางการดูดซึมสารอาหาร
กระเจี๊ยบแดง-เขียว กินก็ได้ ดื่มก็ดี ผลของกระเจี๊ยบแดงเรามักจะนำผลแห้งมาต้มทำน้ำกระเจี๊ยบ รสเปรี้ยวของดอกกระเจี๊ยบจะทำให้ชุ่มคอ กัดเสมหะ แก้ไอ ช่วยย่อยอาหารและยังช่วยลดไขมันในเลือด ส่วนผลกระเจี๊ยบเขียวนิยมนำมาลวกทานกับน้ำพริก ซึ่งฝักของกระเจี๊ยบเขียวจะมีสารเมือกพวกเพ็กติน (Pectin) และกัม (Gum) ที่ช่วยเคลือบแผลในกระเพาะอาหารและลำไส้เหมาะกับคนที่เป็นโรคกระเพาะอาหาร ทั้งยังช่วยรักษาความดันให้เป็นปกติ เป็นยาบำรุงสมอง ช่วยระบายและสามารถแก้โรคพยาธิตัวจี๊ดได้
กระชาย สมุนไพรไทยมีรสเผ็ดร้อน สารสำคัญที่เราบริโภคกันอยู่ในรากและเหง้ากระชาย ซึ่งมีฤทธิ์ยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อแบคทีเรียในลำไส้ ช่วยขับลม แก้ท้องอืดท้องเฟ้อ ช่วยเจริญอาหารและแก้โรคในช่องปาก แต่ที่ฮือฮามากก็จะเป็น “กระชายดำ” ที่รู้จักกันดีในเรื่องเพิ่มพลังทางเพศหรือที่เรียกกันว่า“โสมไทย” นอกจากนี้ยังช่วยบำรุงกำลัง แก้ปวดเมื่อย ขับปัสสาวะ รักษาโรคความดันโลหิต ขยายหลอดเลือดหัวใจ โรคเกาต์ โรคกระเพาะอาหารอีกด้วย
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น